การเก็บเกี่ยวผลกาแฟอราบิก้าเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีนั้นควรมีการบันทึกระยะการเจริญเติบโตของผลตั้งแต่ระยะเริ่มออกดอก เพื่อช่วยในการกำหนดระยะเวลาและปริมาณที่จะต้องเก็บเกี่ยวในแต่ละช่วงฤดู เราเก็บผลที่สุกพอดีด้วยมือ ไม่เก็บผลที่สุกเกินไป ผลแห้ง หรือผลเขียว เพราะจะส่งผลต่อคุณภาพด้านรสชาติของเมล็ดกาแฟ เมื่อเก็บเกี่ยวผลกาแฟเสร็จแล้วควรนำไปสู่กระบวนการแปรรูปภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง เนื่องจากการทิ้งผลกาแฟไว้นานเกินไป จะเกิดกระบวนการหมักของเมล็ดกาแฟ ทำให้เมล็ดกาแฟที่กลิ่นเหม็นและรสเปรี้ยวบูด
ในขั้นตอนของการโม่ผลกาแฟผลสด ควรลดปริมาณการใช้น้ำลง หลังจากการโม่ผลกาแฟต้องคัดเปลือกกาแฟออกให้หมด ล้างทำความสะอาด แล้วหมักเมล็ดกาแฟด้วยน้ำที่สะอาดประมาณ 24-36ชั่วโมง เพราะถ้าเมล็ดกาแฟที่อยู่ในน้ำที่ไม่สะอาดนานจะทำให้รสชาติที่ดีของกาแฟเปลี่ยนไป และเพิ่มโอกาสในการปนเปื้อนของเมล็ดกาแฟ
สวนลีซูมีจะทำการเก็บเกี่ยวผลกาแฟสุกหรือกาแฟเชอร์รี่ด้วยมือซึ่งจะใช้แรงงานมากแต่จะทำให้ได้เม็ดกาแฟที่สุกจริง ๆเท่านั้น
หลังจากเก็บผลกาแฟเชอร์รี่ มาแล้วก็ทำการเทลงในถังน้ำสะอาดเพื่อให้เศษไม้ ใบไม้ และเมล็ดที่ยังไม่สุกหรือเมล็ดฝ่อรวมถึงเมล็ดที่ดูสุกดีแต่มีหนอนเจาะอยู่ข้างในลอยขึ้นมา ก็จะทำการตักทิ้งแล้วทำการล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่งก่อนที่เข้าสู่กระบวนการทำสารกาแฟ(Coffee Processing)
การแปรรูปกาแฟ หลังจากเก็บเกี่ยวผลกาแฟเชอร์รี พวกเราจะทำการตรวจสอบคุณภาพ ล้างทำความสะอาด คัดแยก แปรรูป และตากเมล็ดกาแฟให้แห้งอย่างพิถีพิถันในทุก ๆ ขั้นตอน
หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของกระบวนการแปรรูปกาแฟ คือ การล้างทำความสะอาดและการคัดแยกผลกาแฟเชอร์รี โดยคัดแยกผลกาแฟเชอร์รีที่ไม่ได้มาตรฐานแบบลอยน้ำ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอมและควบคุมปริมาณของจุลินทรีย์ให้ในอยู่ระดับที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้เมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพดีที่สุดก่อนเริ่มต้นเข้าสู่กระบวนการปอกเปลือก หมัก หรือตากแห้งต่อไป
ภายหลังการทำความสะอาดและคัดคุณภาพจนได้เมล็ดกาแฟเชอร์รีที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือกระบวนการปอกเปลือกด้วยเครื่องที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูงสุด มีระบบช่วยประหยัดน้ำ สามารถคัดกรองผลกาแฟเชอร์รีโดยการปล่อยให้ผลที่สุกพอดีไหลลงในแนวตั้ง และเริ่มต้นทำการปอกเปลือกและเมล็ดออกจากกันอย่างนุ่มนวล ไม่ทิ้งร่องรอยความเสียหายหรือตำหนิบนผิวเมล็ดกาแฟ โดยที่ยังคงความหวานของเมือกที่เคลือบผิวเมล็ดกาแฟเอาไว้ เพื่อให้ได้ทั้งอัตราผลผลิตสูงที่สุดและคุณภาพที่ดีที่สุด
กระบวนการตากเมล็ดกาแฟ คือการตากเมล็ดกาแฟให้แห้งในระดับความชื้นที่ 10 – 12% ซึ่งต้องทำการตากในพื้นที่แห้งและมีไหลเวียนของอากาศอย่างเพียงพอตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ เรามีการติดตามและตรวจสอบทั้งระดับความชื้นและอุณหภูมิที่เหมาะสมอย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาคุณภาพของเมล็ดกาแฟไว้ให้ดีที่สุด
Washed Process คือกระบวนการแปรรูปแบบปอกเปลือกผลกาแฟเชอร์รี จากนั้นนำไปหมักหรือขัดล้างเมือกออกด้วยเครื่องขัดเมือก ก่อนจะนำเมล็ดกาแฟกะลาเข้าสู่กระบวนการตากแห้ง ซึ่งโดยปกติแล้ว Washed Process จะช่วยให้เราได้กาแฟที่สะอาด และมีรสชาติที่นุ่มนวลเจือรสเปรี้ยวเล็กน้อย
Honey Process คือกระบวนการแปรรูปด้วยการปอกเปลือกผลกาแฟเชอร์รี แล้วนำเมล็ดกาแฟที่ยังมีเมือกติดอยู่ไปทำการตากแห้ง กระบวนการนี้จะให้รสชาติที่มีความสมดุลระหว่างความหวานจากรสชาติแท้ๆ ของเมล็ดกาแฟ และความเปรี้ยวจากกรดที่ให้กลิ่นรสคล้ายผลไม้
ความพิเศษของกระบวนการแปรรูปกาแฟแบบ Natural หรือ Dry Process คือ การตากแห้งผลกาแฟเชอร์รีโดยไม่มีการปอกเปลือก ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยเพิ่มรสชาติความหวาน และช่วยชูรสชาติจากผลไม้ของเมล็ดกาแฟแท้
การแปรรูปกาแฟพิเศษที่มีปริมาณน้อยมากๆ โดยทำการคัดเลือกจากแหล่งปลูก สายพันธุ์ และวิธีการตากแห้งแบบควบคุมเฉพาะ
ลิขสิทธิ์ ©2022 LISUMI COFFEE - สงวนสิทธิ์ทุกประการ
สนับสนุนโดย : โครงการ สวพส | SME Online TU65
เราาใช้คุกกี้ในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น เมื่อยอมรับการใช้งานคุกกี้ของเรา เราจะรวบรวมข้อมูลของคุณกับข้อมูลผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมด